แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535
********************
1. “พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535” มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวัน นับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
ข. วันถัดไป นับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
ค. เมื่อพ้นกำหนดสิบวัน นับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
ง. เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวัน นับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
ตอบ ก. เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวัน นับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
มาตรา 2 พระราชพระราชบัญญัตินี้ให้บังคับใช้เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวัน นับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. พระราชบัญญัติโรงงาน มีผลให้ยกเลิกพระราชบัญญัติ ฉบับใดบ้าง
ก. พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512
ข. พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2511
ค. พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2518
ง. พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2522
ตอบ ก. พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512
มาตรา 3 ให้ยกเลิก
- พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512
- พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2518
- พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522
3. พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้กับโรงงานของทางราชการ เพื่อเหตุผลใด
ก. เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในประเทศ
ข. เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ
ค. เพื่ออำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานราชการ
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ
มาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่โรงงานของทางราชการที่ดำเนินการโดยทางราชการ เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ แต่ในการประกอบกิจการนี้ไปเป็นแนวทางในการดำเนินงาน
4. โรงงาน หมายความว่าอย่างไร
ก. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมห้าแรงม้า
ข. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมสิบแรงม้า
ค. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมสิบห้าแรงม้า
ง. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมยี่สิบแรงม้า
ตอบ ก. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมห้าแรงม้า
มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้
“โรงงาน” หมายความว่า อาคาร สถานที่ หรือที่ยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมตั้งแต่ห้าแรงม้าหรือกำลังเทียบเท่าตั้งแต่ห้าแรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่เจ็ดคนขึ้นไป โดยใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตามสำหรับทำ ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซ่อมบำรุง ทดสอบ ปรับปรุง แปรสภาพ ลำเลียง เก็บรักษา หรือทำลายสิ่งใดๆ ทั้งนี้ ตามประเภทหรือชนิดของโรงงานที่กำหนดในกฎกระทรวง
“ตั้งโรงงาน” หมายความว่า การก่อสร้างอาคารเพื่อติดตั้งเครื่องจักรสำหรับประกอบกิจการ โรงงาน หรือนำเครื่องจักร สำหรับประกอบกิจการโรงงานมาติดตั้งในอาคารสถานที่หรือยานพาหนะที่จะประกอบกิจการ
“ประกอบกิจการโรงงาน” หมายความว่า การทำ ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซ่อมบำรุง ทดสอบ ปรับปรุง แปรสภาพ ลำเลียง เก็บรักษา หรือทำลายสิ่งใดๆ ตามลักษณะกิจการของโรงงานแต่ไม่รวมถึงการทดสอบเดินเครื่องจักร
“เครื่องจักร” หมายความ สิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นสำหรับใช้ก่อกำเนิดพลังงาน เปลี่ยนหรือแปรสภาพพลังงาน หรือส่งพลังงาน ทั้งนี้ ด้วยกำลังน้ำ ไอน้ำ ลม ก๊าซไฟฟ้า หรือพลังงานอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน และหมายความรวมถึงเครื่องอุปกรณ์ไฟลวีล ปุลเล สายพาน เพลา เกียร์ หรือสิ่งอื่นที่ทำงานสนองกัน
“คนงาน” หมายความว่า ผู้ซึ่งทำงานในโรงงาน ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผู้ซึ่งทำงานฝ่ายธุรการ
“ผู้อนุญาต” หมายความว่า ปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายตามเหมาะสม
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“ปลัดกระทรวง” หมายความว่า ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
5. ในพระราชบัญญัติฉบับนี้รัฐมนตรีหมายถึงบุคคลใด
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง54. กลาโหม
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง56. อุตสาหกรรม
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง58. มหาดไทย
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง60. การคลัง61.
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
6. ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตาม มาตรา 8(1) (2) (3) (4) (5) หรือ (8) หรือประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกินห้าเดือน
ข. จำคุกไม่เกินหกเดือน
ค. ปรับไม่เกินสอง65. แสนบาท
ง. ปรับไม่เกินสามแสนบาท
ตอบ ค. ปรับไม่เกินสองแสนบาท
มาตรา 45 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตาม มาตรา 8(1) (2) (3) (4) (5) หรือ (8) หรือประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท
7. โรงงานจำพวกที่ 2 ได้แก่โรงงานประเภทใด
ก. โรงงานที่สามารถประกอบกิจการโรงงานได้ทันทีตามความประสงค์
ข. โรงงานที่เมื่อจะประกอบกิจการโรงงานต้อง78. แจ้งให้ผู้อนุญาตทราบก่อน
ค. โรงงานที่การตั้งโรงงานจะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะดำเนินการได้
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง91.
ตอบ ข. โรงงานที่เมื่อจะประกอบกิจการโรงงานต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบก่อน
มาตรา 7 ให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้โรงงานตามประเภทชนิดหรือขนาดใดเป็นโรงงานจำพวกที่ 1 โรงงานจำพวกที่ 2 หรือโรงงานจำพวกที่ 3 แล้วแต่กรณี โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการควบคุมดูแล การป้องกันเหตุเดือดร้อนรำคาญ การป้องกันความเสียหาย และการป้องกันอันตรายตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนหรือสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งออกเป็นดังนี้
- โรงงานจำพวกที่ 1 ได้แก่ โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่สามารถประกอบกิจการโรงงานได้ทันทีตามความประสงค์ของผู้ประกอบกิจการโรงงาน
- โรงงานจำพวกที่ 2 ได้แก่ โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่เมื่อจะประกอบกิจการโรงงานต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบก่อน
- โรงงานจำพวกที่ 3 ได้แก่ โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่การตั้งโรงงานจะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะดำเนินการได้เมื่อมีประกาศของรัฐมนตรีตาม มาตรา 32 (1) ให้โรงงานที่กำหนดในประกาศดังกล่าวเป็นโรงงานจำพวกที่ 3 ด้วย
8. โรงงานมีกี่จำพวก
ก. โรงงานมีสองจำพวก
ข. โรงงานมีสามจำพวก
ค. โรงงานมีสี่จำพวก
ง. โรงงานมีห้าจำพวก
ตอบ ข. โรงงานมีสามจำพวก ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
9. เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการประกอบกิจการให้รัฐมนตรีออกกฎกระทรวงเพื่อให้โรงงานจำพวกใดจำพวกหนึ่งปฏิบัติตามข้อใด
ก. กำหนดลักษณะ ประเภทหรือชนิดของเครื่องจักรที่นำมาใช้
ข. กำหนดคุณวุฒิของผู้จะเข้ามาปฏิบัติงานในโรงงาน
ค. กำหนดมาตรฐานและวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ค.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ค.
มาตรา 8 เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการประกอบกิจการให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อให้โรงงานจำพวกใดจำพวกหนึ่งหรือทุกจำพวกตาม มาตรา 7 ต้องปฏิบัติตามในเรื่องดังต่อไปนี้
- กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับที่ตั้งของโรงงาน สภาพแวดล้อมของโรงงานลักษณะอาคารขอโรงงานหรือลักษณะภายในของโรงงาน
- กำหนดลักษณะ ประเภทหรือชนิดของเครื่องจักร เครื่องอุปกรณ์หรือสิ่งที่ต้องนำมาใช้ในการประกอบกิจการโรงงาน
- กำหนดให้มีคนงานซึ่งมีความรู้เฉพาะตามประเภท ชนิดหรือขนาดของโรงงานเพื่อปฏิบัติหน้าที่หนึ่งหน้าที่ใดประจำโรงงาน
- กำหนดหลักเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติ กรรมวิธีการผลิตและการจัดให้มีอุปกรณ์หรือเครื่องมืออื่นใด เพื่อป้องกันหรือระงับ หรือบรรเทาอันตราย ความเสียหายหรือความเดือดร้อนที่อาจเกิดแก่บุคคลหรือทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานหรือที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงาน
- กำหนดมาตรฐานและวิธีการควบคุมการปล่อยของเสียมลพิษหรือสิ่งใดๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการโรงงาน
- กำหนดการจัดให้มีเอกสารที่จำเป็นประจำโรงงานเพื่อประโยชน์ในการควบคุมหรือตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย
- กำหนดข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงงานที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องแจ้งให้ทราบเป็นครั้งคราว หรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
- กำหนดการอื่นใดเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในการดำเนินงานเพื่อป้องกันหรือระงับ หรือบรรเทาอันตราย หรือความเสียหายที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการโรงงานกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งจะกำหนดให้ยกเว้นโรงงานประเภท ชนิด หรือขนาดใดจากการต้องปฏิบัติในเรื่องหนึ่งเรื่องใดก็ได้ และกฎกระทรวงดังกล่าวจะสมควรกำหนดให้เรื่องที่เป็นรายละเอียดทางด้านเทคนิค หรือเป็นเรื่องที่ต้องเปลี่ยนแปลงรวดเร็วตามสภาพสังคม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็ได้
10. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมมีอำนาจตามข้อใด
ก. กำหนดลักษณะ ประเภทหรือชนิดของเครื่องจักรที่นำมาใช้
ข. กำหนดมาตรฐานและวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย
ค. กำหนดข้อมูลที่จำเป็นในการแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
11. ข้อใดกล่าวผิด
ก. โรงงานจำพวกที่ 1 สามารถประกอบกิจการได้ทันที
ข. โรงงานจำพวกที่ 2 เมื่อประกอบกิจการจะต้องแจ้งผู้อนุญาตให้ทราบก่อน
ค. โรงงานจำพวกที่ 3 จะมีใบอนุญาตประกอบกิจการหรือไม่ก็ได้
ง. รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อควบคุมการประกอบกิจการ
ตอบ ค. โรงงานจำพวกที่ 3 จะมีใบอนุญาตประกอบกิจการหรือไม่ก็ได้
12. ใบอนุญาตให้ใช้ได้จนถึงเมื่อใด
ก. 1 ปีนับแต่เริ่มกิจการ
ข. ปีนับแต่เริ่มกิจการ
ค. ปีนับแต่เริ่มกิจการ
ง. ตลอดชีวิต
ตอบ ค. 5 ปีนับแต่เริ่มกิจการ
มาตรา 14 ใบอนุญาตให้ใช้ได้จนถึงวันสิ้นปีปฏิทินแห่งปีที่ห้านับแต่ปีที่เริ่มประกอบกิจการ เว้นแต่มีการย้ายโรงงานตาม มาตรา 27 หรือมีการเลิกประกอบกิจการโรงงาน ให้ถือว่าใบอนุญาตสิ้นอายุในวันที่ออกใบอนุญาตใหม่ หรือวันที่เลิกประกอบกิจการโรงงาน ถ้ามีเหตุอันสมควรเพื่อยุติการประกอบกิจการในอนาคตอันใกล้ ผู้อนุญาตโดยอนุมัติรัฐมนตรีจะออกใบอนาตให้มีอายุสั้นกว่าที่กำหนดในวรรคหนึ่งก็ได้ ใบอนุญาตที่ออกในกรณีนี้จะขอต่ออายุอีกไม่ได้
13. หากมีคำสั่งไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่ต่ออายุใบอนุญาต ผู้ขออนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์บุคคลใด
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ข. ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. พนักงานเจ้าหน้าที่
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
มาตรา 16 คำสั่งไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่ต่ออายุใบอนุญาต ผู้ขออนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
14. ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตขยายโรงงาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตการขอขยายโรงงานและการใช้ขยายโรงงาน และข้อใดต่อไปนี้
ก. การเพิ่มจำนวนเครื่องจักรให้มีกำลังเพิ่มขึ้นร้อยละสามสิบขึ้นไป
ข. การเพิ่มจำนวนเครื่องจักรให้มีกำลังเพิ่มขึ้นร้อยละห้าสิบขึ้นไป
ค. การเพิ่มจำนวนเครื่องจักรให้มีกำลังเพิ่มขึ้นร้อยละเจ็ดสิบขึ้นไป
ง. การเพิ่มจำนวนเครื่องจักรให้มีกำลังเพิ่มขึ้นร้อยละเก้าสิบขึ้นไป
ตอบ ข. การเพิ่มจำนวนเครื่องจักรให้มีกำลังเพิ่มขึ้นร้อยละห้าสิบขึ้นไป
มาตรา 18 ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตขยายโรงงาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตการขอขยายโรงงานและการให้ขยายโรงงาน ตลอดจนการอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ขยายโรงงาน ให้นำ มาตรา 12 มาตรา 13 และมาตรา 16 มาใช้บังคับโดยอนุโลมการขยายโรงงาน ได้แก่
- การเพิ่มจำนวน เปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรทำให้มีกำลังรวมเพิ่มขึ้นตั้งแต่ร้อยละห้าสิบขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีกำลังรวมไม่เกินหนึ่งร้อยแรงม้า หรือกำลังเทียบเท่าไม่เกินหนึ่งร้อยแรงม้า หรือเพิ่มขึ้นตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีกำลังรวมเกินกว่าหนึ่งร้อยแรงม้า หรือกำลังเทียบเท่าเกินกว่าหนึ่งร้อยแรงม้า
- การเพิ่มหรือแก้ไขส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคารโรงงานทำให้ฐานรากเดิมของใบอนุญาตในส่วนหนึ่งที่ขยายให้มีอายุเท่ากับใบอนุญาตตาม มาตรา 14
15. ผู้รับใบอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้ ณ ที่ใด
ก. ที่ว่าการอำเภอ
ข. ที่ว่าการเทศบาล
ค. ในโรงงานของตน
ง. กระทรวงอุตสาหกรรม
ตอบ ค. ในโรงงานของตน
มาตรา 23 ผู้รับใบอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้ ณ ที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ายในโรงงานของตน
16. เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อโรงงานหรือชื่อผู้รับอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตแจ้งเป็นหนังสือแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในกี่วัน
ก. ภายในยี่สิบเอ็ดวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยน
ข. ภายในสิบเก้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยน
ค. ภายในสิบเจ็ดวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยน
ง. ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยน
ตอบ ง. ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยน
มาตรา 24 เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อโรงงานหรือชื่อผู้รับใบอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยน
17. ในกรณีใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทำลาย ผู้รับใบอนุญาตจะต้องกระทำการใด
ก. ยื่นคำขอรับใบแทนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ข. แจ้งความที่สถานีตำรวจ
ค. อายัดใบอนุญาตกับพนักงานเจ้าหน้าที่
ง. ไม่ต้องทำใบอนุญาตใหม่
ตอบ ก. ยื่นคำขอรับใบแทน
มาตรา 25 ในกรณีใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทำลาย ให้ผู้รับอนุญาตยื่นขอรับใบแทน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบถึงการสูญหายหรือถูกทำลาย
18. เมื่อผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะย้ายเครื่องจักรบางส่วนที่ติดตั้งในโรงงานไปยังสถานที่อื่น เพื่อประกอบกิจการโรงงานเป็นการชั่วคราว สามารถย้ายเครื่องจักรไปประกอบกิจการตามคำขอได้ภายในระยะเวลาเท่าใด
ก. ไม่เกินหนึ่งปี
ข. ไม่เกินสองปี
ค. ไม่เกินสามปี
ง. ไม่เกินสี่ปี
ตอบ ก. ไม่เกินหนึ่งปี
มาตรา 26 ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประสงค์จะย้ายเครื่องจักรบางส่วนที่ติดตั้งในโรงงานไปยังสถานที่อื่น เพื่อประกอบกิจการโรงงานเป็นการชั่วคราว ให้ยื่นคำขออนุญาตต่อผู้อนุญาตพร้อมทั้งแผนผัง และรายละเอียดอื่นแสดงเหตุผลประกอบการพิจารณาด้วย ถ้าผู้อนุญาตเห็นสมควรก็ให้สั่งอนุญาตให้ย้ายเครื่องจักรไปประกอบกิจการตามคำขอได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ต้องไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่มีคำสั่ง ในการนี้จะกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัยให้ปฏิบัติด้วยก็ได้ ถ้าผู้รับใบอนุญาตมีความจำเป็นจะต้องประกอบกิจการนั้นเกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตตามวรรคสอง ก็ให้ขอขยายระยะเวลาต่อผู้อนุญาตก่อนระยะเวลานั้นสิ้นสุดลง ถ้าผู้อนุญาตเห็นสมควรก็ให้สั่งอนุญาตขยายระยะเวลาต่อไปได้ไม่เกินหนึ่งปี
19. รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเรื่องใด
ก. กำหนดจำนวนและขนาดของโรงงานแต่ละประเภท
ข. กำหนดชนิด คุณภาพ อัตราส่วนของวัตถุดิบ
ค. กำหนดชนิดหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโรงงาน
ง. ถูกทั้งข้อ ก. ข. และ ค.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
มาตรา 32 เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศ หรือของสาธารณชนให้รัฐมนตรี โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเรื่องดังต่อไปนี้
- กำหนดจำนวนและขนาดของโรงงานแต่ละประเภทหรือชนิดที่จะให้ตั้ง หรือขยาย หรือที่จะไม่ให้ตั้ง หรือขยายในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง
- กำหนดชนิด คุณภาพ อัตราส่วนของวัตถุดิบ แหล่งกำเนิดของวัตถุดิบ และหรือปัจจัย หรือชนิดของพลังงานที่จะนำมาใช้ หรือผลิตในโรงงาน
- กำหนดชนิดหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในโรงงานที่จะให้ตั้งหรือขยาย
- กำหนดให้นำผลผลิตของโรงงานที่จะให้ตั้งหรือขยายไปใช้ในอุตสาหกรรมบางประเภท หรือให้ส่งผลผลิตออกนอกอาณาจักรทั้งหมดหรือบางส่วน
20. ถ้าโรงงานจำพวกที่ 2 หยุดดำเนินงานติดต่อกันเกินกว่าหนึ่งปี ผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2 จะต้องกระทำการใดต่อไปนี้
ก. สามารถกลับมาดำเนินกิจการต่อไปได้
ข. สามารถหยุดดำเนินกิจการต่อไปได้
ค. ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ
ง. ได้รับหนังสืออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อน
ตอบ ค. ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ
มาตรา 33 ถ้าโรงงานจำพวกที่ 2 หรือ โรงงานจำพวกที่ 3 หยุดดำเนินงานติดต่อกันเกินกว่าหนึ่ง ผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2 หรือผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 แล้วแต่กรณี ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันพ้นกำหนดหนึ่งปี ถ้าบุคคลดังกล่าวตามวรรคหนึ่งประสงค์จะประกอบกิจการโรงงานต่อไปให้แจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อนเริ่มประกอบกิจการ ส่วนถ้าเป็นโรงงานจำพวกที่ 3 จะต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อนแล้วถึงประกอบกิจการโรงงานได้ ในการให้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ต่อไปนั้นให้นำ มาตรา 15 วรรคสอง และ มาตรา 16 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
21. ผู้ใดจัดทำผลการตรวจสอบตาม มาตรา 9 อันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. ทั้งจำทั้งปรับ
ข. ปรับไม่เกินสามแสนบาท
ค. จำคุกไม่เกินสามปี
ง. ให้ออกจากงาน
ตอบ ก. ทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 47 ผู้ใดจัดทำผลการตรวจสอบตาม มาตรา 9 อันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
22. ถ้าโรงงานจำพวกที่ หยุดดำเนินงานติดต่อกันเกินกว่าหนึ่งปี ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 จะต้องกระทำการใดต่อไปนี้
ก. สามารถกลับมาดำเนินกิจการต่อไปได้
ข. สามารถหยุดดำเนินกิจการต่อไปได้
ค. ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ
ง. ได้รับหนังสืออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อน
ตอบ ง. ได้รับหนังสืออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อน ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
23. ในกรณีมีอุบัติเหตุในโรงงาน เนื่องจากสาเหตุใดผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสามวัน
ก. เป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตาย
ข. เป็นเหตุให้เครื่องจักรเกิดความเสียหาย
ค. เป็นเหตุให้โรงงานต้องโดนยึดใบอนุญาต
ง. เป็นเหตุให้โรงงานต้องหยุดดำเนินงาน
ตอบ ก. เป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตาย
มาตรา 34 ในกรณีมีอุบัติเหตุในโรงงานเนื่องจากโรงงานหรือเครื่องจักรของโรงงานไม่ว่าจะเป็นกรณีของโรงงานจำพวกใด ถ้าอุบัติเหตุนั้น
- เป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตาย เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ซึ่งภายหลังเจ็ดสิบสองชั่วโมง แล้วยังไม่สามารถทำงานในหน้าที่เดิมได้ ให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสามวันนับแต่วันตาย หรือวันครบกำหนดเจ็ดสิบสองชั่วโมง แล้วแต่กรณี
- เป็นเหตุให้โรงงานต้องหยุดดำเนินงานเกินกว่าเจ็ดวัน ให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสิบวันนับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุในโรงงานใดตามวรรคหนึ่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจโรงงานและเครื่องจักรและพิจารณาดำเนินการตาม มาตรา 37 หรือ มาตรา 39 แล้วแต่กรณี
24. ในกรณีมีอุบัติเหตุในโรงงาน เนื่องจากสาเหตุใดผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสิบวัน
ก. เป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตาย
ข. เป็นเหตุให้เครื่องจักรเกิดความเสียหาย
ค. เป็นเหตุให้โรงงานต้องโดนยึดใบอนุญาต
ง. เป็นเหตุให้โรงงานต้องหยุดดำเนินงาน
ตอบ ง. เป็นเหตุให้โรงงานต้องหยุดดำเนินงาน ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
25. พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตามข้อใด
ก. กำหนดขนาดของโรงงาน อาคาร สถานที่
ข. ออกใบอนุญาตตั้งโรงงาน
ค. ตรวจสภาพของโรงงาน อาคาร สถานที่
ง. ตรวจสิ่งแวดล้อมของโรงงาน อาคาร สถานที่
ตอบ ค. ตรวจสภาพของโรงงาน อาคาร สถานที่
มาตรา 35 เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ ดังต่อไปนี้
- เข้าไปในโรงงานหรืออาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่มีเหตุควรสงสัยว่าจะประกอบกิจการโรงงานในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นหรือถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการของสถานที่ดังกล่าว เพื่อตรวจสภาพโรงงาน อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะสภาพเครื่องจักร หรือกระทำใดที่อาจเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
- นำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่สงสัยเกี่ยวกับคุณภาพในปริมาณพอสมควร เพื่อตรวจสอบคุณภาพพร้อมกับเอกสารที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจ ค้น กัก ยึดหรืออายัดผลิตภัณฑ์ ภาชนะบรรจุ สมุดบัญชี เอกสาร หรือสิ่งใดๆ ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่มีเหตุสงสัยว่าการประกอบกิจการของโรงงานอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงาน หรือที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงาน หรือมีการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัตินี้
- มีหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งเอกสาร หรือวัตถุใดมาเพื่อประกอบการพิจารณาได้
26. พนักงานเจ้าหน้าที่ถูกแต่งตั้งจากข้าราชการระดับใด
ก. ข้าราชการระดับ 2
ข. ข้าราชการระดับ 3
ค. ข้าราชการระดับ 4
ง. ข้าราชการระดับ 5
ตอบ ค. ข้าราชการระดับ 4
มาตรา 36 เมื่อปรากฎว่าบุคคลใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทำการเช่นว่านั้นให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการไม่ต่ำกว่าระดับ 4 มีอำนาจจับกุมผู้นั้นเพื่อส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย
27. เมื่อมีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการหรือคำสั่งปิดโรงงาน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดประกาศไว้ ณ โรงงานนั้นอย่างน้อยกี่แห่ง
ก. อย่างน้อยสามแห่ง
ข. อย่างน้อยห้าแห่ง
ค. อย่างน้อยเจ็ดแห่ง
ง. อย่างน้อยเก้าแห่ง
ตอบ ก. อย่างน้อยสามแห่ง
มาตรา 40 คำสั่งให้หยุดประกอบกิจการหรือคำสั่งปิดโรงงาน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดประกาศไว้ในที่ที่เห็นได้ง่าย ณ โรงงานนั้นอย่างน้อยสามแห่ง ทั้งนี้ ให้มีข้อความแจ้งให้ทราบด้วยว่าห้ามมิให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงงาน คนงาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนทำงานในโรงงานเพื่อให้โรงงานประกอบกิจการต่อไปได้อีกภายหลังมีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการหรือคำสั่งปิดโรงงาน
28. ผู้ใดประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2 โดยไม่ได้แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบจะต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกินเจ็ดเดือน
ข. จำคุกไม่เกินแปดเดือน
ค. ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
ง. ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
ตอบ ค. ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา 48 ผู้ใดประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2 โดยไม่ได้แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบตาม มาตรา 11 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
29. คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีในเขตกรุงเทพมหานครและในส่วนภูมิภาค ซึ่งแต่งตั้งจากรัฐมนตรีแต่ละคณะมีจำนวนทั้งหมดกี่คน
ก. สามคน
ข. ห้าคน
ค. เจ็ดคน
ง. เก้าคน
ตอบ ก. สามคน
มาตรา 65 ให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีในเขตกรุงเทพมหานครและในส่วนภูมิภาคได้ตามความเหมาะสม คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีแต่ละคณะให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในด้านกฎหมายจำนวนสามคน โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสองปี แต่เมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้วอาจได้รบแต่งตั้งอีกได้การพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระการประชุม และวิธีพิจารณาของคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เว้นแต่ความผิดตาม มาตรา 50 วรรคสอง หรือ มาตรา 52 วรรคสอง ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีมีอำนาจเปรียบเทียบได้ ถ้าเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรถูกฟ้องร้องหรือได้รับโทษถึงจำคุก และเมื่อผู้ต้องหาได้เสียค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการเปรียบเทียบปรับให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ในกรณีที่พนักงานสอบสวนพบว่าผู้ใดกระทำความผิดตามวรรคสี่และผู้นั้นยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ ให้พนักงานสอบสวนส่งเรื่องให้แก่คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้นั้นแสดงความยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ
30. คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีสามารถดำรงตำแหน่งได้คราวละกี่ปี
ก. ดำรงตำแหน่งได้คราวละหนึ่งปี
ข. ดำรงตำแหน่งได้คราวละสองปี
ค. ดำรงตำแหน่งได้คราวละสามปี
ง. ดำรงตำแหน่งได้คราวละสี่ปี
ตอบ ข. ดำรงตำแหน่งได้คราวละสองปี ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
31. ผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2 และ โรงงานจำพวกที่ 31 มิได้เสียค่าธรรมเนียมโดยไม่มีเหตุอันสมควร บุคคลใดมีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดการประกอบกิจการ
ก. ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ข. พนักงานเจ้าหน้าที่
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ง. หัวหน้าพนักงานเจ้าหน้า
ตอบ ข. พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 43 ผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2 และ โรงงานจำพวกที่ 3 ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีตามหลักเกณฑ์ วิธีการและอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงตลอดเวลาที่ยังประกอบกิจการ ถ้ามิได้เสียค่าธรรมเนียมโดยไม่มีเหตุอันสมควรให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดการประกอบกิจการไว้จนกว่าจะได้เสียค่าธรรมเนียมและเงินเพิ่มครบจำนวน และให้นำ มาตรา 39 มาตรา 40 และ มาตรา 41 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
32. ผู้รับสนองพระบรมราชโองการพระราชบัญญัตินี้คือใคร
ก. นายอานันท์ ปันยารชุน
ข. นายชวน หลีกภัย
ค. นายบรรหาร ศิลปะอาชา
ง. พลเอกสุจินดา คราประยูร
ตอบ ก. นายอานันท์ ปันยารชุน
33. อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตหรือใบอนุญาตขยายโรงงานฉบับละเท่าใด
ก. 100 บาท
ข. 1,000 บาท
ค. 10,000 บาท
ง. 100,000 บาท
ตอบ ง. 100,000 บาท
อัตราค่าธรรมเนียม
(1) คำขอ ฉบับละ 100 บาท
(2) ใบอนุญาตหรือใบอนุญาตขยายโรงงาน ฉบับละ 100,000 บาท
(3) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 1,000 บาท
(4) การต่ออายุใบอนุญาต ฉบับละ 100,000 บาท
(5) ค่าธรรมเนียมประกอบกิจการโรงงาน ปีละ 30,000 บาท
ในการออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมจะกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกัน โดยคำนึงถึงขนาดและกิจการของโรงงานที่เกี่ยวข้องก็ได้
34. อัตราค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมประกอบกิจการโรงงานปีละเท่าใด
ก. 300 บาท
ข. 3,000 บาท
ค. 30,000 บาท
ง. 300,000 บาท
ตอบ ค. 30,000 บาท ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
35. ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่ออกให้แก่บุคคลใดๆ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้บังคับใช้ โรงงานนั้นจะถือปฏิบัติเช่นไร
ก. ให้ระงับใบอนุญาตฉบับนั้นทันที
ข. สามารถใช้ใบอนุญาตนั้นได้ต่อไปจนกว่าจะหมดอายุ
ค. จะต้องขอใบอนุญาตฉบับใหม่
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. สามารถใช้ใบอนุญาตนั้นได้ต่อไปจนกว่าจะหมดอายุ
มาตรา 67 ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่ออกให้แก่บุคคลใดๆ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้คงใช้ได้ต่อไปจนสิ้นอายุที่กำหนดไว้ ให้ถือว่าใบอนุญาตตั้งโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับเป็นใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ผู้ได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานดังกล่าวมีหน้าที่ดำเนินกาต่อไปตามพระราชบัญญัตินี้
36. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ใบอนุญาตหรือใบอนุญาตขยายโรงงาน ฉบับละ 30,000 บาท
ข. ผู้รับสนองพระบนราชโองการคือ นายชวน หลีกภัย
ค. ผู้ใดขัดขวางพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน
ง. โรงงานจำพวกที่ 2 สามารถประกอบกิจการได้ทันที
ตอบ ค. ผู้ใดขัดขวางพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนมาตรา 56 ผู้ใดขัดขวางหรือไม่ให้ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตาม มาตรา 35 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
37. ผู้รักษาการฉบับนี้คือใคร
ก. รัฐมนตรีว่าการคมนาคม
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ตอบ ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราค่าธรรมเนียมนี้ กฎกระทรวงและประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามความในพระราชบัญญัตินี้เมื่อได้ประกาศใน
38. ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตาม มาตรา 8 (6) หรือ (7) หรือประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ข. ปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
ค. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี
ง. จำคุกไม่เกินสองปี
ตอบ ก. ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา 46 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตาม มาตรา 8 (6) หรือ (7) หรือประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
39. ในกรณีที่จะต้องมีการตรวจสอบโรงงานหรือเครื่องจักรเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ อาจมีการกำหนดให้หน่วยงานใดเป็นผู้ดำเนินการ
ก. คณะกรรมการตรวจสอบแผ่นดิน
ข. หน่วยงานของรัฐบาล
ค. หน่วยงานของเอกชน
ง. ผู้ออกใบอนุญาต
ตอบ ค. หน่วยงานของเอกชน
มาตรา 9 ในกรณีที่จะต้องมีการตรวจสอบโรงงานหรือเครื่องจักรเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ อาจมีการกำหนดให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการและจัดทำรายงานผลกาตรวจสอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ได้ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
40. พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 มีการแบ่งออกเป็นกี่หมวด
ก. 2 หมวด
ข. 4 หมวด
ค. 6 หมวด
ง. 8 หมวด
ตอบ ก. 2 หมวด
พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มี 2 หมวด ดังนี้
หมวด 1 การประกอบกิจการโรงงาน
หมวด 2 การกำกับและดูแลโรงงาน
41. พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ไม่มีประเภทการแบ่งหมวดตามข้อใด
ก. การประกอบกิจการโรงงาน
ข. การกำกับและดูแลโรงงาน
ค. การกำกับใบอนุญาต
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง401.
ตอบ ค. การกำกับใบอนุญาต
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
42. การขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคำขอก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นคำขอดังกล่าวแล้วให้ถือว่าผู้ยื่นคำขออยู่ในฐานะใด
ก. ผู้ยื่นขอใบอนุญาต
ข. ผู้รับใบอนุญาต
ค. ผู้ประกอบกิจการโรงงาน
ง. ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน
ตอบ ข. ผู้รับใบอนุญาต
มาตรา 15 การขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคำขอก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นคำขอดังกล่าวแล้วให้ถือว่าผู้ยื่นคำขออยู่ในฐานะผู้รับใบอนุญาตจนกว่าจะมีคำสั่งถึงที่สุดไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต ถ้าผลการตรวจสอบปรากฎว่าโรงงานและเครื่องจักรมีลักษณะถูกต้องตาม มาตรา 8 ประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว และประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตาม มาตรา 32 และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตให้ผู้อนุญาตต่ออายุใบอนุญาตให้ หากมีกรณีที่ไม่ถูกต้องให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อแก้ไขแล้วให้ต่ออายุใบอนุญาตได้ ถ้าหากไม่แก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดให้มีคำสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาตการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตและการให้ต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง ผู้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตไม่ทันกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ถ้าประสงค์จะประกอบกิจการโรงงานต่อไปและได้มายื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุแล้วให้ถือว่าได้ยื่นคำขอต่ออายุภายในระยะเวลาที่กำหนดและการประกอบกิจการโรงงานในระหว่างนั้นให้ถือเสมือนว่าเป็นการดำเนินการของผู้รับใบอนุญาต แต่เมื่อได้รับอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตผู้นั้นจะต้องเสียค่าปรับเพิ่มอีกร้อยละยี่สิบของค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาต หากพ้นกำหนดหกสิบวันต้องดำเนินการเสมือนขออนุญาตใหม่
43. ผู้ใดประกอบกิจการโรงงานในระหว่างที่ได้มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงาน ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท
ข. จำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท
ค. จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท
ง. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท
ตอบ ง. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท
มาตรา 55 ผู้ใดประกอบกิจการโรงงานในระหว่างที่ได้มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงาน หรือภายหลังที่มีคำสั่งให้ปิดโรงงานต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละห้าพันบาทจนกว่าจะหยุดประกอบกิจการ สถาปนิกหรือวิศวกรผู้ใดยังฝ่าฝืนทำงานในโรงงานเฉพาะส่วนที่มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการ หรือยังฝ่าฝืนทำงานในโรงงานที่มีคำสั่งปิดโรงงานแล้วเพื่อให้โรงงานประกอบกิจการต่อไปต้องระวางโทษ เช่นเดียวกับผู้ประกอบกิจการโรงงานตามวรรคหนึ่งผู้ที่ทำงานในโรงงานหรือคนงานผู้ใดฝ่าฝืนทำงานในโรงงานเฉพาะส่วนที่มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการ หรือยังฝ่าฝืนทำงานในโรงงานที่มีคำสั่งปิดโรงงานแล้วให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้ร่วมกระทำหรือสนับสนุนกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง แล้วแต่กรณี แต่ศาลจะลงโทษน้อยเพียงใดก็ได้ โดยคำนึงถึงฐานะความรับผิดชอบต่อครอบครัว ความจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย และความมีส่วนสำคัญในการกระทำ
44. ผู้ใดเคยถูกลงโทษเพราะเหตุกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้แล้วครั้งหนึ่ง ถ้าได้กระทำความผิดในบทบัญญัติเดียวกันกับที่เคยถูกลงโทษแล้วนั้นซ้ำอีก ให้ศาลพิจารณาโทษเช่นใด
ก. เพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้นั้นอย่างน้อยอีกหนึ่งในสามของอัตราโทษจำคุก
ข. เพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้นั้นอย่างน้อยอีกสองในสามของอัตราโทษจำคุก
ค. เพิ่มโทษอีกสองเท่าของอัตราโทษปรับ
ง. เพิ่มโทษอีกสามเท่าของอัตราโทษปรับ
ตอบ ก. เพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้นั้นอย่างน้อยอีกหนึ่งในสามของอัตราโทษจำคุก
มาตรา 62 ผู้ใดเคยถูกลงโทษเพราะเหตุกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้แล้วครั้งหนึ่ง ถ้าได้กระทำความผิดในบทบัญญัติเดียวกันกับที่เคยถูกลงโทษแล้วนั้นซ้ำอีก ให้ศาลพิจารณาเพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้นั้นอย่างน้อยหนึ่งในสามของอัตราโทษจำคุก หรือเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งของอัตราโทษปรับสำหรับความผิดนั้น
45. เมื่อผู้รับใบอนุญาตมีความประสงค์จะเริ่มประกอบกิจการโรงงานในส่วนหนึ่งส่วนใดต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบอย่างน้อยกี่วัน
ก. ห้าวัน ก่อนวันเริ่มประกอบกิจการโรงงาน
ข. สิบวัน ก่อนวันเริ่มประกอบกิจการโรงงาน
ค. สิบห้าวัน ก่อนวันเริ่มประกอบกิจการโรงงาน
ง. ยี่สิบวัน ก่อนวันเริ่มประกอบกิจการโรงงาน
ตอบ ค. สิบห้าวัน ก่อนวันเริ่มประกอบกิจการโรงงาน
มาตรา 13 ผู้รับใบอนุญาตตาม มาตรา 12 ถ้าประสงค์จะเริ่มประกอบกิจการโรงงานในส่วนหนึ่งส่วนใดต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อนเริ่มประกอบกิจการโรงงาน ถ้าจะมีการทดลองเดินเครื่องก่อนการเริ่มประกอบกิจการโรงงานตามวรรคหนึ่ง ผู้รับใบอนุญาตต้องแจ้งวัน เวลา และระยะเวลาการทดลองเดินเครื่องจักรให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบไม่น้อยกว่าสิบห้าวันด้วย หลักเกณฑ์และระยะเวลาที่อาจใช้เพื่อการทดลองเดินเครื่องจักรให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
46. ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดเลิกประกอบกิจการโรงงานให้แจ้งเป็นหนังสือต่อบุคคลใด
ก. ผู้อนุญาตประกอบกิจการโรงงาน
ข. พนักงานเจ้าหน้าที่
ค. ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ตอบ ก. ผู้อนุญาตประกอบกิจการโรงงาน
มาตรา 28 ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดเลิกประกอบกิจการโรงงานให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้อนุญาตภายในสิบห้าวันนับแต่วันเลิกประกอบกิจการโรงงาน ถ้าผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะเปลี่ยนแปลงโรงงานจำพวกที่ 3 เป็นโรงงานจำพวกที่ 1 หรือ โรงงานจำพวกที่ 2 แล้วแต่กรณี ให้แจ้งการเลิกประกอบกิจการโรงงานตามวรรคหนึ่ง และเมื่อจะประกอบกิจการโรงงานต่อไปให้ดำเนินการตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ สำหรับการประกอบกิจการโรงงานจำพวกดังกล่าว
47. พระราชบัญญัติฉบับนี้ให้ไว้ ณ วันที่เท่าใด
ก. วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2535
ข. วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2535
ค. วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2535
ง. วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2535
ตอบ ข. วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2535
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2535 เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน
48. รัฐมนตรีมีอำนาจตามข้อใดต่อไปนี้
ก. ประกาศให้ท้องที่ใดท้องที่หนึ่งเป็นเขตประกอบอุตสาหกรรม
ข. ประกาศให้ท้องที่ใดท้องที่หนึ่งเป็นเขตโรงงานจำพวกที่ 1 เท่านั้น
ค. ประกาศให้ท้องที่ใดท้องที่หนึ่งเป็นเขตจำกัดเสียง
ง. ประกาศให้ท้องที่ใดท้องที่หนึ่งเป็นเขตปลอดการประกอบอุตสาหกรรม
ตอบ ก. ประกาศให้ท้องที่ใดท้องหนึ่งเป็นเขตประกอบอุตสาหกรรม
มาตรา 30 ให้รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ท้องที่ใดท้องที่หนึ่งเป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมได้ การประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2 หรือ โรงงานจำพวกที่ 3 ภายในเขตประกอบการอุตสาหกรรมตามวรรคหนึ่ง หรือเขตนิคมอุตสาหกรรมซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรม ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบตาม มาตรา 11 หรือได้รับอนุญาตตาม มาตรา 12 แล้วแต่กรณี แต่การประกอบกิจการโรงงานดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตาม มาตรา 8 ประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว ประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตาม มาตรา 32 (1) และบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวกับการควบคุมการประกอบกิจการโรงงานตามพระราชบัญญัตินี้ โดยให้ถือเสมือนเป็นผู้แจ้งหรือผู้รับใบอนุญาต แล้วแต่กรณี เมื่อได้กำหนดให้ท้องที่ใดเป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมหรือจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแล้ว รัฐมนตรีอาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้บริเวณโดยกิจการโรงงานโดยเด็ดขาดหรือจะอนุญาตให้ประกอบกิจการได้เฉพาะโรงงานบางประเภท ชนิด หรือขนาดใดก็ได้
49. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ผู้ใดประกอบกิจการระหว่างมีคำสั่งหยุดประกอบกิจการ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่แสนบาท
ข. ผู้ใดขัดขวาง485. พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
ค. ผู้ใดขยายโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขยายโรงงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี
ง. ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี
ตอบ ค. ผู้ใดขยายโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขยายโรงงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี
มาตรา 52 ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดขยายโรงงานงานโดยไมได้รับใบอนุญาตขยายโรงงานตาม มาตรา 18 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่โรงงานตามวรรคหนึ่งเป็นโรงงานประเภทหรือชนิดที่กำหนดจำนวน หรือขนาดที่จะให้ขยายไม่ให้ขยายในท้องที่ใดตามประกาศที่ออกตาม มาตรา 32 (1) ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 57 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งตาม มาตรา 37 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกินห้าพันบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือยังไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง
50. ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตตาย ให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกยื่นคำขอต่ออนุญาตเพื่อรับโอนใบอนุญาตภายในกี่วัน
ก. สามสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย
ข. หกสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย
ค. เก้าสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย
ง. หนึ่งร้อยวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย
ตอบ ค. เก้าสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย
มาตรา 22 ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตตาย ให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกยื่นคำขอต่อผู้อนุญาต เพื่อรับโอนใบอนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย หรือภายในระยะเวลาที่ผู้อนุญาตขยายเวลาให้ตามความจำเป็น ถ้ามิได้ยื่นคำขอภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ถือว่าใบอนุญาตสิ้นอายุ หากจะประกอบกิจการโรงงานต่อไปให้ดำเนินการขอรับใบอนุญาตใหม่ในระหว่างระยะเวลาตามวรรคหนึ่งให้ถือเสมือนว่าทายาทหรือผู้จัดการมรดกซึ่งเข้าประกอบกิจการโรงงานเป็นผู้รับใบอนุญาต ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถให้นำความในสองวรรคก่อนมาใช้บังคับแก่ผู้อนุบาลโดยอนุโลมหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ในการขอรับโอนใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง